โรงผลิตไวน์แห่งนี้มีพื้นที่ 6.3 เฮกตาร์ และผลิตไวน์ได้ 50,000 ขวด มีการเปลี่ยนมาใช้วิธีการปลูกแบบออร์แกนิคและแบบไบโอไดนามิค Uccelliera 2016 Rapace  เป็นไวน์ที่มีเอกลักษณ์และแสดงความเป็นตัวตนอย่างเด่นชัด ด้วยเน้นไปทางแร่ธาตุ กลิ่นดินสอและหินบด รสชาติเข้มข้นด้วยผลไม้สีดำ acidity เต็มไปด้วยความชุ่มฉ่ำของผลไม้ ในขณะนี้มีการผลิตออกมาทั้งสิ้น 11,300 ขวด โดยไวน์ขวดนี้ วางขายครั้งแรกเมื่อเดือนมกราคม ปี 2019 ซึ่งถือว่าเป็นไวน์อีกหนึ่งตัวที่คุ้มค่า น่าลิ้มลอง

ที่ดินแห่งนี้มีพื้นที่ขนาด 52 เฮกตาร์ ซึ่งปลูกไร่องุ่นขาว 20 เฮกตาร์ และผลิตไวน์ 500,000 ขวดต่อปี ด้วยกรรมวิธีการปลูกองุ่นแบบออร์แกนิค แต่ยังไม่ได้มีการรับรอง สีแดงทับทิมสดใสมีชีวิตชีวา เปิดประสบการณ์สดชื่นแปลกใหม่ที่กรุ่นในปาก และกลิ่นที่เตะจมูก จากพลำสีเข้ม  กาแฟ มินท์ และโกโก้ ปิดท้ายด้วยความกรุบกรอบออกรสออกชาติของเหล่าบรรดาผลไม้ต่างๆ และที่สำคัญไม่เหม็นเขียว เนื้อละเอียด ชุ่มฉ่ำ ความบริสุทธิ์ที่น่าดึงดูดจากองุ่นพันธุ์ Merlot

ไวน์รุ่นแรก ที่ถูกผลิตขึ้นจากองุ่นสายพันธุ์  Merlot มีชื่อว่า Tresette ซึ่งถูกจำกัดการผลิตอยู่เพียงแค่ 2,800 ขวดเท่านั้น ผ่านการบ่มในถังไม้โอ้กฝรั่งเศส 7001 จำนวน 3 ถัง องุ่นถูกเก็บเกี่ยวมาจากต้นองุ่นแก่ที่มีความสูงจากพื้นดิน 480 เมตร และถูกเก็บเกี่ยวมาผลิตเป็นไวน์ในช่วงที่ดีที่สุดเท่านั้น Tresette แสดงออกถึงความสง่างาม ด้วยรสชุ่มฉ่ำของ แบลคเบอร์รี กลิ่นเตะจมูกด้วยกลิ่นกานพลู กลิ่นสมุนไพร แซมด้วยกลิ่นเครื่องเทศเล็กน้อย แทนนินนุ่มลื่น พร้อมรสปิดท้ายแสนอร่อย

“Pino di Biserno” โดย Tenuta di Biserno โรงกลั่นไวน์ทัสคานีที่ค้นพบโดย Lodovico Antinoriเป็นไวน์แดงที่มีลักษณะเฉพาะ รวมถึงกลเม็ดเด็ดพรายที่หรูหรา ประกอบไปด้วยองุ่นเบอร์รีแดงที่หลากหลาย ที่ถูกบ่มในถังโอ้คมือสองและถังโอ้คใหม่ โดยถังไม้เนื้อดีมีส่วนในการรักษากลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ไม่ให้สูญเสียไป มีความเผ็ดเบา ๆ และให้รสสัมผัสเผ็ดร้อนของสมุนไพร เนื้อสัมผัสเข้มข้น สไตล์เมดิเตอร์เรเนียน พร้อมกับแทนนินเนื้อกลมกลืนชั้นเยี่ยม

Pian dell’ ORina คือไร่แห่งแรกๆ ที่ทำการปลูกองุ่น Montalcino ที่ได้รับการรับรองการผลิตแบบไบโอไดนามิค Brunello di Montalcino ปี 2012 จะวางจำหน่ายในเดือนตุลาคม ซึ่งแน่นอนว่า มันจะดึงดูดความสนใจของคุณทันที ด้วยความบริสุทธิ์และเข้มข้น ทันทีที่มันถูกรินลงในแก้ว โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมของเชอร์รี่แห้ง แคสซิส กลิ่นหอมดินที่เพิ่งผ่านการไถพรวน และกุหลาบป่า นำเสนอความยิ่งใหญ่ ด้วยรสนุ่มลื่นลอยร่อนเหนือเพดานปาก ยิ่งคุณเป็นคนหนึ่งที่หลงไหลในกลิ่นหอมเหล่านี้มากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งตระหนักมากขึ้น…

ภาพลักษณ์อันบริสุทธิ์ขององุ่นพันธุ์ Sangiovese ส่งผลให้ไวน์ La Gioia  ปี 2016 มีความงดงาม วินาทีที่ได้สัมผัสโน๊ตของแร่ธาตุได้ปรากฏให้ประจักษ์ชวนให้หวนนึกถึงหินสีดำ หรือ หรือแกรไนท์ นอกจากนั้น ยังสัมผัสได้ถึงชั้นผิวที่ปกคลุมไปด้วยผลไม้สีดำและลูกพลำ รสชาติกำลังดี เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง และความสดชื่นที่ได้จากความเผ็ดร้อนของเครื่องเทศต่างๆตอนท้าย ไวน์มีรสชาติ medium ไปจนถึง full bodied โดยที่ส่วนผสมต่างๆเข้ากันได้อย่างลงตัว เหมาะอย่างยิ่งที่จะจับคู่กับถั่ว Tuscan และสตูมะเขือ พร้อมกับขนมปังสด…