WORLD’S END STIR IT UP 2014

5,550.00฿

STIR IT UP ไวน์ที่ผลิตจากองุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon 100% ถูกเก็บเกี่ยวจากไร่องุ่น ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใจกลางบนภูเขาสูง Prichard Hill ซึ่งมองเห็นวิวของ Napa Valley ทั้งหมด และอ่าวซานฟรานซิสโกจากระยะไกล  ไร่องุ่นแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Stagecoach Estate ซึ่งปลูกโดย Jan Krupp บนเนินเขาทางตะวันตกเฉียงใต้ เป็นพื้นที่อบอุ่นที่ได้รับแสงแดดเต็มที่ในช่วงบ่าย จึงเหมาะสำหรับการปลูก Cabernet Sauvignon พื้นที่ Atias Peak ของไร่องุ่น Stagecoach นั้นถูกปกคลุมด้วยดินภูเขาไฟสีแดง แต่สิ่งที่ทำให้พื้นที่นี้เป็นเอกลักษณ์นั่นคือปริมาณของหินแบนจำนวนมหาศาลซึ่งช่วยให้เกิดการระบายน้ำที่ดีบริเวณลาดเขาอันเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสร้างความสดชื่น มอบความสดและความเป็นกรดที่ดี อันเป็นหัวใจของไวน์ชั้นยอด ขั้นตอนการหมักไวน์นั้นคล้ายคลึงกับไวน์ที่ผลิตในประเทศฝรั่งเศส หลังจากดำเนินการผ่านตารางการคัดแยกสองชุด หลังจากผ่านการคัดเลือกสองรอบ รอบแรกคือการคัดเลือกพวงองุ่น เด็ดก้านทีละลูกและรอบที่สองคือการบ่มที่อุณหภูมิต่ำก่อนเริ่มทำการหมักหลังจากผ่านการคัดเลือกสองรอบ รอบแรกคือการคัดเลือกพวงองุ่น เด็ดก้านทีละลูกและรอบที่สองคือการบ่มที่อุณหภูมิต่ำก่อนเริ่มทำการหมักถังไม้ขนาดใหญ่จากคอนยัคถูกนำมายังแคลิฟอร์เนีย ตัวไวน์ผ่านขั้นตอนการลดการกระด้างของไวน์ในถังโอ๊คฝรั่งเศสใหม่และถูกบ่มในถังเดิมเป็นระยะเวลาสองปีขึ้นไป ไวน์ตัวนี้มีความเข้มข้น หนักแน่นและแทนนินสูง เปลือกไม้ ดินสอและพลัมรสเผ็ดเป็นคาแรกเตอร์หลักของไวน์ พร้อมองค์ประกอบรองอย่างเชอร์รี่และกล่องซิกก้า

หมวดหมู่: ป้ายกำกับ: ,

100% Cabernet Sauvignon

96 Points James Suckling / 94 Points Wine Enthusiast

93 Points Wine Spectator / 93 Points Robert Parker

STIR IT UP ไวน์ที่ผลิตจากองุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon 100% ถูกเก็บเกี่ยวจากไร่องุ่น ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใจกลางบนภูเขาสูง Prichard Hill ซึ่งมองเห็นวิวของ Napa Valley ทั้งหมด และอ่าวซานฟรานซิสโกจากระยะไกล  ไร่องุ่นแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Stagecoach Estate ซึ่งปลูกโดย Jan Krupp บนเนินเขาทางตะวันตกเฉียงใต้ เป็นพื้นที่อบอุ่นที่ได้รับแสงแดดเต็มที่ในช่วงบ่าย จึงเหมาะสำหรับการปลูก Cabernet Sauvignon พื้นที่ Atias Peak ของไร่องุ่น Stagecoach นั้นถูกปกคลุมด้วยดินภูเขาไฟสีแดง แต่สิ่งที่ทำให้พื้นที่นี้เป็นเอกลักษณ์นั่นคือปริมาณของหินแบนจำนวนมหาศาลซึ่งช่วยให้เกิดการระบายน้ำที่ดีบริเวณลาดเขาอันเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสร้างความสดชื่น มอบความสดและความเป็นกรดที่ดี อันเป็นหัวใจของไวน์ชั้นยอด ขั้นตอนการหมักไวน์นั้นคล้ายคลึงกับไวน์ที่ผลิตในประเทศฝรั่งเศส หลังจากดำเนินการผ่านตารางการคัดแยกสองชุด หลังจากผ่านการคัดเลือกสองรอบ รอบแรกคือการคัดเลือกพวงองุ่น เด็ดก้านทีละลูกและรอบที่สองคือการบ่มที่อุณหภูมิต่ำก่อนเริ่มทำการหมักหลังจากผ่านการคัดเลือกสองรอบ รอบแรกคือการคัดเลือกพวงองุ่น เด็ดก้านทีละลูกและรอบที่สองคือการบ่มที่อุณหภูมิต่ำก่อนเริ่มทำการหมักถังไม้ขนาดใหญ่จากคอนยัคถูกนำมายังแคลิฟอร์เนีย ตัวไวน์ผ่านขั้นตอนการลดการกระด้างของไวน์ในถังโอ๊คฝรั่งเศสใหม่และถูกบ่มในถังเดิมเป็นระยะเวลาสองปีขึ้นไป ไวน์ตัวนี้มีความเข้มข้น หนักแน่นและแทนนินสูง เปลือกไม้ ดินสอและพลัมรสเผ็ดเป็นคาแรกเตอร์หลักของไวน์ พร้อมองค์ประกอบรองอย่างเชอร์รี่และกล่องซิกก้า